การเปิดตัว iPhone 17 ได้ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยส่งผลต่อหลายด้าน เช่น รูปแบบการแข่งขันในตลาด ทิศทางนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภค
ซีรีส์ iPhone 17 ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในตลาด โดยยอดขายทำสถิติสูงสุดในรอบห้าปี ยอดจองล่วงหน้าของรุ่นมาตรฐาน iPhone 17 เพิ่มขึ้น 8 เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปี และยอดขายซีรีส์ iPhone 17 บน JD ในเวลาเพียง 1 นาที ก็สามารถทำยอดขายได้เกินกว่ายอดขายรวมทั้งวันของปีที่แล้ว ความสำเร็จนี้ช่วยเสริมสร้างตำแหน่งผู้นำของแอปเปิลในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 62% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025
ความนิยมของ iPhone 17 ยังได้รบกวนรูปแบบการขายแบบดั้งเดิมอีกด้วย ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าต่างเพิ่มราคา" ได้ทำลายกฎเกณฑ์ปกติที่ว่า "รุ่นเก่าลดราคาเมื่อมีการเปิดตัวรุ่นใหม่" ส่งผลให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายอื่นต้องเผชิญกับแรงกดดัน จนต้องปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่น Huawei ที่ลดราคาโมเดลระดับสูงอย่าง Mate X6 ลง 2000 หยวน และ Xiaomi ที่เลื่อนการเปิดตัวซีรีส์ Xiaomi 17 ไปเป็นช่วงปลายเดือนกันยายน และประกาศว่าจะ "เทียบมาตรฐานกับ iPhone อย่างเต็มที่"

IPhone 17 ได้รับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของทั้งอุตสาหกรรม เป็นครั้งแรกที่ iPhone รุ่นมาตรฐานมาพร้อมหน้าจอ ProMotion อัตราการรีเฟรชสูงแบบปรับตัวได้ 120Hz และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 256GB ซีรีส์ Pro ได้อัปเกรดระบบกล้องถ่ายภาพ โดยรวมแล้วการออกแบบมีความเบาและบางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ iPhone 17 ยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูง กระจกนิรภัยซูเปอร์เซรามิกคริสตัล และเทคโนโลยีการห่อหุ้ม SiP เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและการใช้งานของ iPhone 17 เท่านั้น แต่ยังได้กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ เพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นจุดสนใจใหม่ในการแข่งขัน และ iPhone 17 ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้ว่าฟังก์ชัน AI ของรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศจะเปิดตัวในช่วงปลายปี แต่ความน่าเชื่อถือในความสามารถในการผสานรวมระบบนิเวศของ iPhone ยังคงทำให้ผลิตภัณฑ์นี้น่าดึงดูดสำหรับผู้ใช้ระดับสูงที่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถืออยู่บ่อยครั้ง การพัฒนา AI ใน iPhone 17 จะช่วยผลักดันให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเร่งการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับความชาญฉลาดของสมาร์ทโฟน
IPhone 17 ได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคต่อการอัปเกรดผลิตภัณฑ์ การอัปเกรดที่สำคัญของ iPhone 17 ทำให้ผู้บริโภคมีความคาดหวังมากขึ้นต่อนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ พวกเขาไม่พอใจกับการอัปเกรดแบบ "เพิ่มทีละเล็กทีละน้อย" ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป แต่หวังว่าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจะสามารถนำเสนอการปรับปรุงที่มีนัยสำคัญมากกว่านี้ ในเวลาเดียวกัน กลยุทธ์การกำหนดราคาของ iPhone 17 ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเช่นกัน โดยราคาของรุ่นมาตรฐานยังคงเท่าเดิม ขณะที่สเปกถูกอัปเกรด ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มเลือกผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ามากขึ้น สิ่งนี้กระตุ้นให้ผู้ผลิตรายอื่นต้องพิจารณากลยุทธ์การกำหนดราคาของตนเองอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในเรื่องความคุ้มค่าของผู้บริโภค
สรุปได้ว่า การเปิดตัว iPhone 17 มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อตลาดโทรศัพท์มือถือ มันได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันในตลาด ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและความคาดหวังของผู้บริโภค ในอนาคต เมื่อตลาดโทรศัพท์มือถือยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ผลกระทบของ iPhone 17 อาจยังคงขยายตัวและเปลี่ยนแปลงต่อไป